One Day Trips @ น้ำตกโกรกอีดก สระบุรี / 1 ใน 10 น้ำตกที่สูงที่สุดในภาคกลาง

งานนี้ทีม Avenger เราตั้งใจว่าจะทำลายสถิติของทุกทีมที่ทำมา "โกรกอีดก"

ขึ้น 2 ชม ลง 1:20 ชม ( ปกติใช้เวลาขึ้น,ลงรอบละ 3-4 ชม )

น้ำตกที่สูงกว่า 300 เมตร ใกล้กรุงที่สุด เป็น 1 ใน 10 น้ำตกที่สูงที่สุดในภาคกลาง เอาจริงๆไม่ไกลจากกรุงเทพฯเลยครับสามารถไปเช้าเย็นกลับได้นะครับ หรือถ้าจะค้างบรรยากาศก็ดีครับ

การเดินทางเข้าไปแนะนำให้ติต่อเจ้าหน้าที่ ขญ 18 ดีว่านะครับมีค่าใช้จ่าย 500บาท/Trips ครับ

เพราะบางช่วงบางเส้นทางไม่ชัดเจนครับมีโอกาสได้วนอยู่ในป่าค่อนข้างสูงครับ

เส้นทางที่จะไปสะดวกสะบายมากๆๆๆๆๆๆๆๆ ประชดครับ ข้ามหิน ข้ามลำธาร ปีนป่าย ข้ามขอนไม้ ลุยน้ำ

ปีนเชือก ปีนเขา เปียกปอน มุดไผ่ ครบครับ ไม่มีร้านค้าซุปเปอร์หรืออะไรนะครับ

เราจะเริ่มไต่ความสูงตั้งแต่ 175 เมตรยัน 650 เมตร จากระดับน้ำทะเล ระยะทางสั้นมากๆครับ เดินเท้าเข้าป่าประมาณ 4 กิโล ไปกลับก็ 8 โลเอง จากประสพการณ์ตรงที่เคยผ่าน ภูกะดึง เขาล้อมหมวก หรือแม้กระทั่งเขาช้างเผือก ทุกๆที่ที่กล่าวมาเด็กไปเลยสำหรับทริปนี้

อย่างแรกที่อยากให้เตรียมตัวเตรียมใจคือเปียกแน่นอนครับ อ๋อไม่เหมือนป่าอื่นๆครับไม่มีทากครับ

ถึง ขญ 18 เรามารับเจ้าหน้าที 1 ท่านเพื่อจะนำทางเส้นทางที่จะไปจะต้องขับรถไปอีกประมาณ 15 กิโล

จะถึงจุดจอดรถและเริ่มต้นเดินเท้าอีก 4 กิโลครับ

มาเริ่มเปียกกันเลยละกันจุดแรกต้องเดินข้ามน้ำซะแล้ว

สิ่งหนึ่งที่เราจะสามารถพบเห็นได้ตลอดทางของที่นี่คือ เห็ดแชมเปญ ครับ ต้องสังเกตุดีๆครับ ยิ่งช่วงหน้าฝนเยอะมากๆๆๆ

เราจ้ำอ้าวกันเร็วมากบุกป่าฝ่าดงจนมาถงจุดกางเต๊นส์ พอดีไม่ได้ถ่ายครับมีคนกางอยุ่เยอะเหมือนกันเกรงใจเค้าแล้วเราก็มาถึงจุดหลงแรกถ้าไม่มีเจ้าหน่้าที่พามาจุดนี้เราจะไม่รู้เลยนะครับว่าจะต้องข้ามขอนไม้ไปอีกฝั่งนึง

หลังจากผ่านไปไม่นานเราก็มาถึงน้ำตกโกรกอีดกจนได้ ด้วยความดีใจกับอาการงงๆ ว่ามันไม่น่าใช่ที่เห็นในรูปมันไม่ใช่แบบนี้ แต่มันถูกละครับ มันคือน้ำตกโกรกอีดกจริงๆแต่มันคือชั้นที่ 1 เน้นครับชั้นที่ 1 เองครับเราเดินมาแฮกขนาดนี้ เพิ่งถึึงจุดแรก 5555

แต่ก็สวยงามเงิบครับ ได้พักแช่น้ำเย็นๆ ยังไม่ทันหายเหนื่อย เจ้าหน้าที่ชวนไปต่อละบอกว่าอีกไกลต่อจากนี้เป็นทางขึึ้นอย่างเดียว ใครเข่าไม่ดี ท้อเลยก็ได้นะ

เดินขึ้นเขามาเรื่อยๆไม่ไกลเราก็มาถึงชั้นที่ 2 ครับ ลืมบอกไปทั้งหมดมี 8 ชั้นนะครับแต่เราจะไปได้แค่ชั้นที่ 7 ครับ มาถึงชั้นที่ 2 ยอมรับครับว่ารู้สึกกลัว น้ำลึกและนิ่งมาก สีน้ำก็เข้มแปลกๆ ไม่อยากจะนึกถึงเรื่องเล่าที่เคยได้ยินมาโดยเฉพาะอย่างยิ่งเจ้าหน้าที่ไม่ยอมเข้ามาด้วยและก็ชวนไปต่อเลย

เราก็ไม่รอช้าครับไปก็ไปครับ และแล้วก็ป่ายๆปีนๆ เปียกๆ ปอนๆ มาถึงชั้นที่ 3 ครับ ขอบอกว่าไม่ค่อยครับตามรูปด้านล่างเลยครับ

เราพักเหนื่อยกันไม่นานรีบไปต่อชั้นที่ 4 เลย ชั้นนี้มีชื่อด้วยครับเค้าเรียกกันสไลเดอร์ครับเป็นชั้นที่ดูแล้วเทียบกับทุกชั้นน่าเล่นที่สุดครับน้ำใสเย็นและถ้านำเยอะก็น่าลื่นสไลลงมาครับตอนแรกก็ตั้งใจจะเล่นน้ำที่นี่เลยและพวกที่มาส่วนใหญ่ที่ท้อที่ไม่ไหวหรือไม่พร้อมก็จะหยุดกันอยุ่แค่ชั้นนี้ครับ

สาเหตุก็เพราะว่าตามรูปเลยครับต่อจากนี้เป็นทางลัดเลาะขึ้นเขาล้วนๆและบางช่วงค่อนข้างลำบากครับและจะต้องไต่เชือกขึ้นไปเรื่อยครับ ช่วงนี้ถาพอาจจะน้อยเพราะไม่สามารถถ่ายได้จริงๆมือต้องปีนป่ายครับ

ณ จุดๆนี้ยอมรับครับเหนื่อยดี เราผ่านชั้นที่ 5 ชั้นที่ 6 มาเลยโดยที่ไม่ได้ถ่ายรูปครับเพราะเป็นช่วงน้ำตกสูงเล่นไม่ได้ไม่มีจุดพักครับพอผ่านชั้นที่6 เราจะเริ่มเห็นสวรรค์รำไรละ นั่นคือชั้นที่ 7 ครับ

ไกลลิปๆที่อยุ่เบื้องหลังครับยังอีกไกล นึกว่าจะถึงซะแล้ว ยอมรับว่าเหนื่อยจริงๆครับ

และแล้วไม่นานเกินรอเราก็มาถึง ชั้นที่ 7 ครับ จุดหมายของเรา เข้าใจนะทำไมต้องชั้น 7 เพราะมันหายเหนื่อยจริงๆคุ้มค่ามากกะการเดินทาง

เจ้าหน้าที่บอกว่าน้ำอาจจะน้อยหน่อยแต่ก็ดีกว่าถ้าเกิดเป็นน้ำป่าไหลหลากมาเราไม่มีที่หลบเลยครับแย่แน่ เขาให้เราพักผ่อนตามสบายและแนะนำมุมหลักที่ห้ามพลาดครับ

มุมนี้ครับใครไปใครมาต้องถ่ายเดี๋ยวจำมาไม่ถึงเลยจัดไปรับชุดใหญ่ตามภาพด้านล่างครับ

ทดสอบกล้อง iphone slow ชัดเตอร์ครับ เหมือนฝึกวิชาอยู่วัดเส้าหลิน 555 เราหยุดน้ำตกได้

แถมอีกหลายรูป

เป็นความสะบายสุดท้ายก่อนจัดเดินลงชุดใหญ่แบบม้วนเดียวจบครับ ลงเขา 4 กิโล ไม่ต้องหยุดเราทำเวลาได้ดีเลยครับ 1ชม20นาที ถึงจุดจอดรถ สมใจอยากครับ ทำลายสถิติได้ดังใจ แนะนำครับอยากให้มากันแต่ต้องเป็นช่วง ก.ย.- ต.ค. เท่านั้นนะครับ สวยคุ้มค่าจริงๆ